ยอหรือ INDIAN MULBERRY MORINDA CITRIFOLIA LINN. อยู่ในวงศ์ RUBIADEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 2-6 เมตร ใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม ใบมีขนาดใหญ่มากเท่ากับใบหูกวาง เนื้อใบหนาแข็งสีเขียวสด ใบอ่อนหรือแก่ใช้รองก้นห่อหมกเพิ่มรสขมรับประทานอร่อย เป็นยาขับลมในตัวด้วย ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ ฐานดอกอัดกันแน่น เป็นรูปทรงกลม กลีบดอกสีขาว ผลเป็นผลสด เชื่อมติดกันเป็นผลรวม ผิวผลเป็นตุ่มพอง ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง มีชื่อเรียกอีกคือ มะตาเสือ และ ยอบ้าน
ประโยชน์ ผลสด ดิบหรือห่าม ฝานเป็นชิ้นบาง ๆ ย่างหรือคั่วไฟอ่อน ๆ ให้เหลือง ต้มหรือชงน้ำร้อนดื่มแก้คลื่นไส้ อาเจียน สารที่ออกฤทธิ์คือ ASPERULOSIDE ถ่านไฟที่ได้จากการเอาผลดิบเผาไฟใส่เกลือป่นเล็กน้อย อมเป็นยาแก้เหงือกเปื่อย เป็นขุมบวม น้ำคั้นจากใบสด ๆ ใช้ทาแก้ปวดเกาต์ ปวดตามข้อนิ้วมือนิ้วเท้า ใบสดยังนำไปสะล้างศีรษะเป็นยาฆ่าเหาได้อีกด้วย
ความรู้เรื่องหูด กระ
หูด (Wart) คือตุ่มเล็กๆที่ผิวซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแข็งสีเดียวกับผิวหนัง เกิดจากการติดเชื้อ Human apilloma Virus (HPV) ที่ผิวหนังของคนเรา Verruca คือหูดเช่นเดียวกัน แต่มักหมายถึงหูดที่พบบริเวณหลังเท้า หูดที่มักพบตามมือหรือเท้า แต่ก็อาจพบบนใบหน้าและส่วนอื่นๆของร่างกายได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะพบมากในเด็ก และวัยรุ่น
หูดที่พบเจอทั่วไปนั้นไม่ได้มีอันตรายอะไร อาจเพียงแค่ทำให้คุณรู้สึกอายและรู้สึกไม่น่ามองเท่านั้น ผู้ที่ทานยาสเตียรอยด์หรือคนที่มีระบบภูมิต้านทานบกพร่อง (เช่นผู้ที่ติดเชื้อ HIV) มีโอกาสที่จะเกิด หูดได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ
ลักษณะอาการ
หูดจะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อเล็กๆบนผิวหนัง ซึ่งบางครั้งอาจรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนที่เรียกว่า โมเสค (Mosaic)
• หูดธรรมดา (common wart) ลักษณะของหูดชนิดนี้ จะเป็นตุ่มเม็ดนูนแข็ง ผิวค่อนข้างขรุขระ ไม่ทำให้เจ็บ
อาจมีเม็ดเดียว หรือ หลายเม็ดก็ได้ ตำแหน่งที่พบบ่อย คือ ตามข้อนิ้ว เข่า และรอบๆเล็บ
• หูดชนิดแบน (plane wart) ลักษณะของหูดชนิดนี้จะเป็นเม็ดเล็กแข็ง นูนเล็กน้อยแต่ผิวเรียบ และอาจมีอาการคัน ร่วมด้วยได้ ตำแหน่งที่พบบ่อยได้แก่บนใบหน้าและหลังมือ
• ติ่งเนื้อที่ผิวหนัง (filiform wart) เป็นติ่งยื่นออกจากผิวหนังพบบริเวณใบหน้า เช่น ริมฝีปาก เปลือกตา หรือลำคอ
• หูดฝ่าเท้า (plantar wart หรือ verruca) พบได้บ่อยที่บริเวณข้างใต้ฝ่าเท้า และจะมีจุดสีเข้มที่ตรงกลาง ถ้ากดหรือ ลงน้ำหนักแรงๆก็อาจทำให้รู้สึกเจ็บได้
• หูดอวัยวะสืบพันธุ์ (genital wart) จะเกิดขึ้นที่บริเวณต่างๆของอวัยวะสืบพันธุ์ อาจมีลักษณะเป็นก้อนสีขาวเล็ก ๆ หรือใหญ่กว่านั้น รูปทรงคล้ายดอกกะหล่ำ ไม่มีอาการเจ็บแต่อาจระคายเคืองผิว
สาเหตุ
หูดนั้นเกิดจากเชื้อ Human Papilloma Virus (HPV) ซึ่งเชื้อชนิดนี้นั้นสามารถแบ่งออกเป็นชนิดย่อยๆได้อีกถึง 70 ชนิดด้วยกัน และเชื้อบางชนิดก็เป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดหูดขึ้นตามอวัยวะต่างๆของร่างกายการสัมผัสโดยตรงทางผิวหนังทำให้ไวรัสนั้นแพร่กระจายติดต่อกันระหว่างคนได้ ยกเว้นแต่หูดอวัยวะสืบพันธุ์ (genital wart) ซึ่งจะติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น และเนื่องจากเด็กนั้นมีภูมิต้านทานต่อ เชื้อ HPV ต่ำ ทำให้เด็กมีแนวโน้มที่จะเกิดหูดขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ บริเวณที่น่าจะเกิดหูดได้มากที่สุด เช่น ผิวหน้า ข้อศอก เข่า และนิ้ว และมีสิ่งของที่อาจทำให้ตัดหูดได้ เช่น มีดโกนหนวด มีดตัดเล็บ รวมถึงรองเท้าที่ไม่พอดี นอกจากนี้ แต่ละคนก็มีความไวต่อเชื้อหูดได้ต่างกัน และโรคนี้นั้นก็ไม่ใช่โรคที่จะถ่ายทอดสู่คนในครอบครัวได้
วิธีการรักษา
คนส่วนใหญ่มักมองว่าหูดนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ทำให้เกิดอาการคันและเจ็บ และกลัวที่จะไปติดคนอื่น แม้ว่าหูดนั้นเป็นอาการที่พบเจอได้ทั่วไป แต่ก็ยังไม่มีผลพิสูจน์แน่ชัดว่ามีวิธีรักษาใดที่ให้ผลดีที่สุด คุณอาจต้องลองหลากหลายวิธีเพื่อที่จะกำจัดหูดที่ว่านี้ มีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่วางจำหน่ายทั่วไปในร้านขายยาเพื่อใช้รักษาหูดไม่ว่าจะเป็นครีม เจล ยาทา หรือพลาสเตอร์ที่ผสมตัวยาก็ตาม กรดซาลิไซลิคในผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยทำลายส่วนที่เป็นผิวส่วนที่เป็นหนังหนาๆ ซึ่งก่อตัวขึ้นเป็นหูด สิ่งที่ช่วยทำให้หูดถูกขัดถูออกได้ง่ายโดยใช้หินขัดหรือแผ่นขัดเท้า
วิธีรักษาด้วยวิธีใช้สารเคมี อย่าง Formaldehydeและ Glutaraldehydeก็ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน
ระวังอย่าใช้วิธีเหล่านี้ถ้าคุณป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือมีระบบไหลเวียนโลหิตไม่ดี และวิธีที่กล่าวมาข้างต้นอาจใช้ไม่ได้ผลกับหูดที่มีขนาดใหญ่มากๆ คุณอาจซื้อ Silver Nitrate Pencil สำหรับจี้หูดมาใช้ สำหรับหูดทั่วไปควรใช้เพียงแค่ 3 ครั้ง และไม่ควรใช้มากกว่า 6 ครั้ง สำหรับหูดที่ฝ่าเท้า คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดในตอนนี้ วิธีรักษาหูดด้วยความเย็น (Freezing System) นั้นมีวางจำหน่ายแล้วในร้านขายยาทั่วไป อย่างไรก็ตามสตรีมีครรภ์และบุคคลที่เป็นโรคเบาหวานไม่ควรใช้
วิธีการรักษาอื่นๆนั้นก็ได้แก่ เลเซอร์, Cryotheraphy การรักษาด้วยความเย็น หรือการผ่าตัด วิธีเหล่านี้นั้นค่อนข้างรักษาได้ผล แต่อาจต้องทำซ้ำ สำหรับหูดที่ดื้อมากรักษายาก แพทย์อาจต้องฉีดสารเคมีอันตรายเข้าไปเพื่อกำจัดมัน หากคุณสงสัยว่าตุ่มเนื้อที่คุณพบนั้นใช่หูดหรือไม่ อย่าเพิ่งรักษาหรือจัดการอะไรด้วยตัวเองโดยพลการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หูดที่อวัยวะสืบพันธ์นั้นต้องได้รับการดูแลรักษาโดยแพทย์หรืออยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลเท่านั้น
กระ freckles
ตกกระไม่ใช่โรคเพราะมันไม่มีปัญหาตามมา ตกกระเป็นภาวะที่มีผื่นเป็นสีต่างกันเช่น สีแดง เหลือง น้ำตาล หรือสีดำ ขนาดต่างๆกัน มักเกิดในคนผิวขาว ผิวบาง มักเกิดในตำแหน่งที่ถูกแสงอาทิตย์มาก
ชนิดของกระ
Ephelides เป็นกระที่เกิดในช่วงที่แสงอาทิตย์มาก เมื่อหน้าหนาวแสงอาทิตย์ลดลง กระก็จะหายไปเป็นกรรมพันธุ์ การใช้ครีมกรองแสงจะลดการเกิดกระ Lentigines หรือ lentigo เป็นกระที่มักเกิดตั้งแต่เด็กมีสีน้ำตาลเข้มกว่าชนิดแรกและไม่จาง
สาเหตุ
กรรมพันธุ์
การเจอรังสี uv
ความสำคัญของกระ
กระจะไม่กลายเป็นเนื้อร้ายแต่ความสำคัญคือหากเกิดผื่นขึ้นต้องวินิจฉัยแยกโรคที่สำคัญคือ มะเร็งผิวหนัง ชนิดต่างที่เกิดจากแดด ดังนั้นผู้ที่มีผื่นขึ้นหากไม่แน่ใจควรจะปรึกษาหมอโรคผิวหนัง
การป้องกัน
สำหรับผู้ที่มีกรรมพันธุ์ควรจะป้องกันโดยการหลีกเลี่ยงแสงแดด และการทาครีมกันแสงแดด
การรักษา
เหมือนกับการรักษาฝ้า ตีนกา ผิวสีแทน ครีมกันแดด ผิวไหม้จากแดด มะเร็งผิวหนัง ฝ้า กระ