วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ใบยอ แก้หูดตกกระ เซลล์ผิวเปลี่ยนสี

สมัยโบราณคนเป็นหูด ตกกระ และเซลล์ผิวเปลี่ยนสีกันเยอะ ซึ่งในยุคนั้นแพทย์แผนไทยมีวิธีแก้หรือช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นได้ โดยใช้ใบยอใบอ่อนที่ยังสด กินก่อนอาหารเช้าวันละ 1 ใบ กินจนครบ 15 วันแรก จะสังเกตเห็นได้เลยว่า หูด ตกกระ และเซลล์ผิวที่เสียเริ่มจะดีขึ้น ให้กินต่อไปเรื่อย ๆ ทุกวันจนครบ 3 เดือน แล้วหยุด หูด ตกกระ และเซลล์ผิวหนังจะดีขึ้นอย่างชัดเจน สามารถเว้นระยะ 3 เดือนแล้วกลับมากินใหม่ไม่อันตรายอะไร ใครที่มีอาการตามที่กล่าวข้างต้นทดลองกินได้ไม่เสียหายอะไร

ยอหรือ INDIAN MULBERRY MORINDA CITRIFOLIA LINN. อยู่ในวงศ์ RUBIADEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 2-6 เมตร ใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม ใบมีขนาดใหญ่มากเท่ากับใบหูกวาง เนื้อใบหนาแข็งสีเขียวสด ใบอ่อนหรือแก่ใช้รองก้นห่อหมกเพิ่มรสขมรับประทานอร่อย เป็นยาขับลมในตัวด้วย ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ ฐานดอกอัดกันแน่น เป็นรูปทรงกลม กลีบดอกสีขาว ผลเป็นผลสด เชื่อมติดกันเป็นผลรวม ผิวผลเป็นตุ่มพอง ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง มีชื่อเรียกอีกคือ มะตาเสือ และ ยอบ้าน



ประโยชน์ ผลสด ดิบหรือห่าม ฝานเป็นชิ้นบาง ๆ ย่างหรือคั่วไฟอ่อน ๆ ให้เหลือง ต้มหรือชงน้ำร้อนดื่มแก้คลื่นไส้ อาเจียน สารที่ออกฤทธิ์คือ ASPERULOSIDE ถ่านไฟที่ได้จากการเอาผลดิบเผาไฟใส่เกลือป่นเล็กน้อย อมเป็นยาแก้เหงือกเปื่อย เป็นขุมบวม น้ำคั้นจากใบสด ๆ ใช้ทาแก้ปวดเกาต์ ปวดตามข้อนิ้วมือนิ้วเท้า ใบสดยังนำไปสะล้างศีรษะเป็นยาฆ่าเหาได้อีกด้วย



ความรู้เรื่องหูด กระ


หูด (Wart) คือตุ่มเล็กๆที่ผิวซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแข็งสีเดียวกับผิวหนัง เกิดจากการติดเชื้อ Human apilloma Virus (HPV) ที่ผิวหนังของคนเรา Verruca คือหูดเช่นเดียวกัน แต่มักหมายถึงหูดที่พบบริเวณหลังเท้า หูดที่มักพบตามมือหรือเท้า แต่ก็อาจพบบนใบหน้าและส่วนอื่นๆของร่างกายได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะพบมากในเด็ก และวัยรุ่น



หูดที่พบเจอทั่วไปนั้นไม่ได้มีอันตรายอะไร อาจเพียงแค่ทำให้คุณรู้สึกอายและรู้สึกไม่น่ามองเท่านั้น ผู้ที่ทานยาสเตียรอยด์หรือคนที่มีระบบภูมิต้านทานบกพร่อง (เช่นผู้ที่ติดเชื้อ HIV) มีโอกาสที่จะเกิด หูดได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ



ลักษณะอาการ


หูดจะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อเล็กๆบนผิวหนัง ซึ่งบางครั้งอาจรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนที่เรียกว่า โมเสค (Mosaic)



หูดมีหลากหลายชนิด เช่น :



หูดธรรมดา (common wart) ลักษณะของหูดชนิดนี้ จะเป็นตุ่มเม็ดนูนแข็ง ผิวค่อนข้างขรุขระ ไม่ทำให้เจ็บ
อาจมีเม็ดเดียว หรือ หลายเม็ดก็ได้ ตำแหน่งที่พบบ่อย คือ ตามข้อนิ้ว เข่า และรอบๆเล็บ
หูดชนิดแบน (plane wart) ลักษณะของหูดชนิดนี้จะเป็นเม็ดเล็กแข็ง นูนเล็กน้อยแต่ผิวเรียบ และอาจมีอาการคัน ร่วมด้วยได้ ตำแหน่งที่พบบ่อยได้แก่บนใบหน้าและหลังมือ
ติ่งเนื้อที่ผิวหนัง (filiform wart) เป็นติ่งยื่นออกจากผิวหนังพบบริเวณใบหน้า เช่น ริมฝีปาก เปลือกตา หรือลำคอ
หูดฝ่าเท้า (plantar wart หรือ verruca) พบได้บ่อยที่บริเวณข้างใต้ฝ่าเท้า และจะมีจุดสีเข้มที่ตรงกลาง ถ้ากดหรือ ลงน้ำหนักแรงๆก็อาจทำให้รู้สึกเจ็บได้
หูดอวัยวะสืบพันธุ์ (genital wart) จะเกิดขึ้นที่บริเวณต่างๆของอวัยวะสืบพันธุ์ อาจมีลักษณะเป็นก้อนสีขาวเล็ก ๆ หรือใหญ่กว่านั้น รูปทรงคล้ายดอกกะหล่ำ ไม่มีอาการเจ็บแต่อาจระคายเคืองผิว



สาเหตุ


หูดนั้นเกิดจากเชื้อ Human Papilloma Virus (HPV) ซึ่งเชื้อชนิดนี้นั้นสามารถแบ่งออกเป็นชนิดย่อยๆได้อีกถึง 70 ชนิดด้วยกัน และเชื้อบางชนิดก็เป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดหูดขึ้นตามอวัยวะต่างๆของร่างกายการสัมผัสโดยตรงทางผิวหนังทำให้ไวรัสนั้นแพร่กระจายติดต่อกันระหว่างคนได้ ยกเว้นแต่หูดอวัยวะสืบพันธุ์ (genital wart) ซึ่งจะติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น และเนื่องจากเด็กนั้นมีภูมิต้านทานต่อ เชื้อ HPV ต่ำ ทำให้เด็กมีแนวโน้มที่จะเกิดหูดขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ บริเวณที่น่าจะเกิดหูดได้มากที่สุด เช่น ผิวหน้า ข้อศอก เข่า และนิ้ว และมีสิ่งของที่อาจทำให้ตัดหูดได้ เช่น มีดโกนหนวด มีดตัดเล็บ รวมถึงรองเท้าที่ไม่พอดี นอกจากนี้ แต่ละคนก็มีความไวต่อเชื้อหูดได้ต่างกัน และโรคนี้นั้นก็ไม่ใช่โรคที่จะถ่ายทอดสู่คนในครอบครัวได้



วิธีการรักษา


คนส่วนใหญ่มักมองว่าหูดนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ทำให้เกิดอาการคันและเจ็บ และกลัวที่จะไปติดคนอื่น แม้ว่าหูดนั้นเป็นอาการที่พบเจอได้ทั่วไป แต่ก็ยังไม่มีผลพิสูจน์แน่ชัดว่ามีวิธีรักษาใดที่ให้ผลดีที่สุด คุณอาจต้องลองหลากหลายวิธีเพื่อที่จะกำจัดหูดที่ว่านี้ มีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่วางจำหน่ายทั่วไปในร้านขายยาเพื่อใช้รักษาหูดไม่ว่าจะเป็นครีม เจล ยาทา หรือพลาสเตอร์ที่ผสมตัวยาก็ตาม กรดซาลิไซลิคในผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยทำลายส่วนที่เป็นผิวส่วนที่เป็นหนังหนาๆ ซึ่งก่อตัวขึ้นเป็นหูด สิ่งที่ช่วยทำให้หูดถูกขัดถูออกได้ง่ายโดยใช้หินขัดหรือแผ่นขัดเท้า



วิธีรักษาด้วยวิธีใช้สารเคมี อย่าง Formaldehydeและ Glutaraldehydeก็ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน
ระวังอย่าใช้วิธีเหล่านี้ถ้าคุณป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือมีระบบไหลเวียนโลหิตไม่ดี และวิธีที่กล่าวมาข้างต้นอาจใช้ไม่ได้ผลกับหูดที่มีขนาดใหญ่มากๆ คุณอาจซื้อ Silver Nitrate Pencil สำหรับจี้หูดมาใช้ สำหรับหูดทั่วไปควรใช้เพียงแค่ 3 ครั้ง และไม่ควรใช้มากกว่า 6 ครั้ง สำหรับหูดที่ฝ่าเท้า คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดในตอนนี้ วิธีรักษาหูดด้วยความเย็น (Freezing System) นั้นมีวางจำหน่ายแล้วในร้านขายยาทั่วไป อย่างไรก็ตามสตรีมีครรภ์และบุคคลที่เป็นโรคเบาหวานไม่ควรใช้


วิธีการรักษาอื่นๆนั้นก็ได้แก่ เลเซอร์, Cryotheraphy การรักษาด้วยความเย็น หรือการผ่าตัด วิธีเหล่านี้นั้นค่อนข้างรักษาได้ผล แต่อาจต้องทำซ้ำ สำหรับหูดที่ดื้อมากรักษายาก แพทย์อาจต้องฉีดสารเคมีอันตรายเข้าไปเพื่อกำจัดมัน หากคุณสงสัยว่าตุ่มเนื้อที่คุณพบนั้นใช่หูดหรือไม่ อย่าเพิ่งรักษาหรือจัดการอะไรด้วยตัวเองโดยพลการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หูดที่อวัยวะสืบพันธ์นั้นต้องได้รับการดูแลรักษาโดยแพทย์หรืออยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลเท่านั้น


กระ freckles



ตกกระไม่ใช่โรคเพราะมันไม่มีปัญหาตามมา ตกกระเป็นภาวะที่มีผื่นเป็นสีต่างกันเช่น สีแดง เหลือง น้ำตาล หรือสีดำ ขนาดต่างๆกัน มักเกิดในคนผิวขาว ผิวบาง มักเกิดในตำแหน่งที่ถูกแสงอาทิตย์มาก



ชนิดของกระ



Ephelides เป็นกระที่เกิดในช่วงที่แสงอาทิตย์มาก เมื่อหน้าหนาวแสงอาทิตย์ลดลง กระก็จะหายไปเป็นกรรมพันธุ์ การใช้ครีมกรองแสงจะลดการเกิดกระ Lentigines หรือ lentigo เป็นกระที่มักเกิดตั้งแต่เด็กมีสีน้ำตาลเข้มกว่าชนิดแรกและไม่จาง


สาเหตุ


กรรมพันธุ์


การเจอรังสี uv


ความสำคัญของกระ


กระจะไม่กลายเป็นเนื้อร้ายแต่ความสำคัญคือหากเกิดผื่นขึ้นต้องวินิจฉัยแยกโรคที่สำคัญคือ มะเร็งผิวหนัง ชนิดต่างที่เกิดจากแดด ดังนั้นผู้ที่มีผื่นขึ้นหากไม่แน่ใจควรจะปรึกษาหมอโรคผิวหนัง



การป้องกัน


สำหรับผู้ที่มีกรรมพันธุ์ควรจะป้องกันโดยการหลีกเลี่ยงแสงแดด และการทาครีมกันแสงแดด


การรักษา


เหมือนกับการรักษาฝ้า ตีนกา ผิวสีแทน ครีมกันแดด ผิวไหม้จากแดด มะเร็งผิวหนัง ฝ้า กระ